เรื่องสั้น ‘เนื้อกวางอร่อยดีนะ’ (วิถีซีบิเรซ)

เรื่องสั้น ‘เนื้อกวางอร่อยดีนะ’ (วิถีซีบิเรซ)

เรื่องสั้น ‘วิถีซีบิเรซ : เนื้อกวางอร่อยดีนะ’

*** หมายเหตุ : เรื่องสั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นที่อยู่ในจักรวาลเดียวกันกับนิยายเรื่อง ‘มนตร์สรัญดา’ ค่ะ เพียงแต่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหลายปี

 

**********

 

ปีศักราชสากลที่ 5460 ดาริน ในวัย 20 ปีเดินทางมาถึงอำเภอเล็ก ๆ ของจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออก

ไม่มีใครรู้ว่าหล่อนมาจากไหน รู้แค่ว่าหล่อนเป็นหญิงสาวที่หน้าตาสะสวย รูปร่างเย้ายวน ผิวพรรณขาวเนียนผุดผ่อง

หล่อนมาเปิดร้านขายข้าวแกงเล็ก ๆ ในตัวอำเภอ มีลูกค้าอุดหนุนมากมายทั้งชายหญิง

ผู้ชายติดใจในความงาม ผู้หญิงติดใจในรสมือ หลังจากถูกผู้ชายค่อนอำเภอรุมจีบอยู่พักใหญ่ สุดท้ายหล่อนก็ตัดสินใจแต่งงานกับ ดำรง เจ้าของร้านขายผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอ

 

*******

 

“เมื่อวันก่อนฉันเห็นเสี่ยดำรงพาผู้หญิงเข้าไปที่หลังร้านตั้งนานสองนาน ไม่รู้เข้าไปทำอะไรกัน”

นางแย้ม แม่ค้าขายดอกไม้ในตลาดซุบซิบกับแม่ค้าขายผักแผงข้าง ๆ แต่เป็นเสียงซุบซิบในระดับที่คนในรัศมี 5 ช่วงแขนได้ยินชัดแจ๋ว

“ผู้หญิงที่ไหน คุณนายดารินเมียเสี่ยน่ะเหรอ” นางสายบัว แม่ค้าขายผักย้อนถามเสียงซื่อ

“อู๊ยยยยย นังสายบัว นังคนซื่อ ถ้าเป็นคุณนายดารินนังแย้มมันจะเอามาเล่ารึ” นางยี่สุ่น ที่ตั้งแผงขายผักอยู่อีกข้างของร้านดอกไม้สอดขึ้น

“เอ๊า… แล้วใครกันเล่า?”

“เห็นมีคนลือกันว่าเป็นคนงานร้านตัดผ้าเจ๊หงส์” นางแย้มทำสุ้มเสียงเหมือนไม่อยากจะเล่า แต่ระดับเสียงไม่ได้ลดลงเลย

“เสี่ยเขาจะจ้างตัดชุดให้เมียเขาหรือเปล่า” นางสายบัวยังพยายามมองในแง่ดี ทำเอานางยี่สุ่นแค่นเสียง “หึ” ออกมาอย่างรำคาญใจ

“นังสายบัว ผัวบ้านไหนเคยเรียกคนงานร้านตัดผ้าไปตัดเสื้อให้เมียสองต่อสองในที่ลับ ผัวบ้านแกเหรอ”

 

ในระหว่างที่สามแม่ค้ากำลังพูดคุยเรื่องในมุ้งของชาวบ้านอย่างออกรส คุณนายดารินที่ถูกพาดพิงกำลังเลือกซื้อเนื้อหมูอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ได้ยินหมดทุกบทสนทนา ส้มแป้น เด็กรับใช้ที่ตามมาด้วยถึงกับมองหน้าคุณนายด้วยอาการเลิ่กลั่ก แต่ดารินก็ยังคงรักษาสีหน้าเรียบเฉยไม่สะทกสะท้านเอาไว้ได้

“ซื้อของครบแล้ว ไปกันเถอะ” ดารินหันไปยื่นเนื้อหมูที่ซื้อมาใส่ตะกร้าที่ส้มแป้นถือไว้ แล้วชวนกันกลับ

ขากลับต้องเดินผ่านแผงของสามแม่ค้า ที่บัดนี้ได้หุบปากฉับลงทันทีที่ดารินเดินผ่าน แต่เมื่อเจ้าตัวคล้อยหลังไปแล้วก็หันกลับมาสุมหัวกันต่อ

“เพิ่งจะแต่งงานไม่นาน คุณนายแกก็ยังสาวยังสวย แต่เสี่ยมันก็ออกลายมีเล็กมีน้อยซะแล้ว น่าสงสารจริงจริ๊ง” นางยี่สุ่นพูดพลางมองตามแผ่นหลังของดารินที่เดินห่างออกไปเรื่อย ๆ

“มีผัวหล่อรวยก็อย่างนี้ ใคร ๆ ก็จ้องตาเป็นมัน เป็นฉันหน่อยไม่ได้ จะจัดให้ลืมไม่ลงเลย” นางแย้มเสริม

“จัดใครยะ จัดผัว หรือจัดให้นังเมียน้อย”

“ก็ต้องเป็นพวกนังเมียน้อยหน้าด้านสิ จะเอาให้อยู่ไม่ได้เลย” ยิ่งพูดนางแย้มก็ยิ่งเข้าถึงอารมณ์ประหนึ่งผัวมีเมียน้อยซะเอง

“ฮะ ฮะ … อย่างตาก้านผัวแกใครจะเอา” นางยี่สุ่นหัวเราะขึ้นเมื่อนึกสภาพผัวของนางแย้ม ขี้เหร่ก็ปานนั้น แก่จนจะลงโลงแล้วด้วย

นางสายบัวยังคงฟังนางแย้มกับนางยี่สุ่นจิกกัดกันไปเงียบ ๆ ความจริงแล้วนางเองก็เคยเห็นเสี่ยดำรงพาเด็กสาวคนหนึ่งเข้าไปที่หลังร้านอยู่นานสองนานเช่นกัน คาดว่าจะเป็นคนละคนกับที่นางแย้มพูดถึงซะด้วย

 

**********

 

ส้มแป้นมองคุณนายดารินของตัวเองที่ยืนหั่นเนื้อหมูและผักต่าง ๆ อย่างคล่องแคล่ว ในใจรู้สึกอึดอัดแต่พูดอะไรออกมาไม่ได้ เรื่องที่ได้ยินในตลาดไม่ใช่เรื่องใหม่ หล่อนเองก็ได้ยินเรื่องทำนองนี้บ่อย ๆ เวลาออกไปนอกบ้าน แต่ไม่รู้ว่าคุณนายของหล่อนจะคิดยังไง เพราะดูนิ่งซะเหลือเกิน

“เดี๋ยวเธอเอาเนื้อที่เหลือไปเก็บในตู้เย็นนะ” ดารินหันมาสั่งเด็กสาวที่ยืนมองอยู่นานสองนาน

“ค่ะ คุณนาย”

 

ไม่นานนักสามีของดารินก็กลับมาถึงบ้านหลังใหญ่ที่ใคร ๆ ก็เรียกว่าคฤหาสน์ในช่วงเย็น ทุก ๆ วันเมียสาวแสนสวยของดำรงจะมายืนรอรับด้วยรอยยิ้มหวานอยู่ด้านในตัวบ้าน หาน้ำเย็น ๆ มาเสิร์ฟ หลังจากพูดคุยกันสักพัก ก็จะถึงเวลาอาหารเย็นที่เมียของเขาจะเป็นคนลงมือทำด้วยตัวเอง วันนี้ก็เช่นกัน

 

ดารินเข้ามาต้อนรับและหาน้ำเย็น ๆ มาให้สามีอย่างเอาใจอย่างเคย ตามมาด้วยอาหารมื้ออร่อยที่เขาติดใจในรสชาติมาตั้งแต่ไหนแต่ไร อิ่มตา อิ่มท้อง อิ่มใจ และเมื่อถึงยามกลางคืนก็จะได้อิ่มหนำสำราญบนเตียงอีกด้วย

ดำรงมองเมียสาวของตัวเองอย่างพึงพอใจ มีเมียที่สวย เก่ง และดี มันดีอย่างนี้นี่เอง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไปเที่ยวหาความสุขเพิ่มเติมนอกบ้านไม่ได้ ความสุขถ้าจะมีมากสักหน่อยก็ไม่ใช่เรื่องแย่ไม่ใช่หรือ ยิ่งคนที่มีฐานะและความพร้อมอย่างเขาด้วยแล้ว ก็ยิ่งหาความสุขได้ง่ายขึ้นไปอีก

 

**********

 

แต่งงานได้ไม่เท่าไหร่ ดำรงเริ่มออกลายไปมีเล็กมีน้อยนอกบ้าน

แรก ๆ หล่อนยังนิ่ง แต่วันหนึ่งมีเด็กสาวใจกล้านามว่า อารี อายุเกิน 18 มาแค่ไม่กี่เดือน บุกมาประกาศตัวถึงบ้านหลังใหญ่ที่ดารินอาศัยอยู่กับสามีว่าเป็นเมียอีกคนของเสี่ย

เด็กสาวมั่นใจในความสาวกว่าและสดกว่าของตัวเอง และคิดว่าจะได้เข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหญ่ในฐานะเมียรอง ขอแค่ดำรงยอมรับเท่านั้น เมียอย่างดารินจะขัดอะไรได้

“เสี่ยยังไม่กลับมาหรอก เธอกลับไปก่อนเถอะ พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่” ดารินบอกอารีอย่างใจเย็น แต่เด็กสาวมีหรือจะยอม

“ไม่! ฉันจะรอเสี่ยที่นี่”

ดารินยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้เด็กสาว แล้วยกมือขึ้นบีบกรามเล็ก ๆ นั้นจนแทบแตก

อารีตกใจกับความเร็วและแรงบีบที่ทำให้รู้สึกเหมือนหน้าของหล่อนกำลังจะแตกเป็นชิ้น ๆ หล่อนน้ำตาคลอ พูดอะไรไม่ออก

“พูดดี ๆ ไม่ชอบ ชอบให้ใช้กำลังหรือยังไง” น้ำเสียงที่ถามนั้นฟังดูไพเราะเสนาะหู รอยยิ้มนั้นก็สามารถทำให้หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ใจละลาย แต่ไม่ใช่กับคนที่อยู่ในกำมือหล่อนในตอนนี้

อารีเกิดความรู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูก นังคุณนายคนนี้ปากยิ้มก็จริง แต่ดวงตาให้ความรู้สึกว่าสามารถทิ่มแทงเข้าไปถึงภายใน สุดท้ายก็จำต้องยอมล่าถอยไปก่อน

ดารินสะบัดมือออกจากคางเรียวเล็กนั่น แล้วยืนมองเด็กสาวด้วยสีหน้าเรียบเฉย ส่วนอารีเมื่อหลุดออกจากกรงเล็บเมียหลวงมาได้ ก็เริ่มพองตัวขึ้นอีก

“กลับก็ได้ แต่ยังไงฉันก็จะมาใหม่ จะบอกเสี่ยด้วยว่าคุณนายกีดกันไม่ยอมให้ฉันพบเสี่ย!”

ดารินมองตามเด็กสาวที่เดินลงส้นออกจากบ้านไปด้วยสายตาเย็นชา

เมื่อสามีกลับมาถึงบ้าน หล่อนก็ไม่ได้หยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพูดแต่อย่างใด และทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น

 

ทางด้านอารีที่กลับบ้านไป ตั้งใจว่าพรุ่งนี้จะไปที่บ้านหลังใหญ่อีกครั้งตอนค่ำ ๆ ในช่วงเวลาที่ดำรงอยู่บ้านแน่นอนแล้ว จะได้ไม่ถูกเมียหลวงไล่ออกมาอีก

ตกดึกคืนนั้น ช่วงที่อารีกำลังเคลิ้มหลับ อยู่ดี ๆ หล่อนก็รู้สึกว่ามีใครสักคนขึ้นคร่อมร่างของหล่อนอยู่ เมื่อลืมตาขึ้นมาก็ต้องตกใจเพราะเห็นเป็นเงาร่างของคนในชุดสีดำ ร่างนั้นใช้ผ้ายัดเพื่ออุดปากหล่อนไว้ และยังมัดเท้าหล่อนไว้อีก

“อยู่เฉย ๆ อย่าส่งเสียงดัง ถ้าไม่อยากตาย” เสียงนั้นดังเท่ากับเสียงกระซิบ แต่ไม่รู้ทำไมหล่อนถึงรู้สึกหนาวสันหลังวาบ คล้าย ๆ ว่าวิญญาณจะออกจากร่างได้ทุกเมื่อ

เด็กสาวหวาดกลัว แต่เมื่อได้ยินเสียงคนร้ายเป็นผู้หญิง และพยายามเพ่งมองก็พบว่าเป็นดาริน เมียแต่งของดำรงนั่นเอง แต่หล่อนทำได้แค่ส่งเสียงอู้อี้เท่านั้น

ดารินหยิบกระดาษและปากกาบังคับให้อารีเขียนจดหมายทิ้งไว้ให้คนที่บ้าน

“เขียนลงไปว่าหล่อนหลงรักผู้ชายไม่มีหัวนอนปลายเท้าคนหนึ่งจนต้องหนีตามกันไป”

เด็กสาวดื้อดึงขัดขืนไม่ยอมเขียน ทั้งส่ายหัวสะบัดตัว จึงโดนดารินบีบคอแทบจะขาดอากาศหายใจ สุดท้ายจึงต้องยอมเขียนลงไปทั้งน้ำหูน้ำตาที่ไหลทะลัก

หลังจากเขียนจดหมายเสร็จ ดารินจัดการมัดมือเด็กสาว เก็บเสื้อผ้าจำนวนหนึ่งและเงินเข้ากระเป๋าเดินทางใบเล็ก แล้วหิ้วทั้งคนและของออกไปทางหน้าต่าง ทิ้งไว้เพียงจดหมายฉบับนั้นไว้

 

อารีโดนคุณนายในชุดดำมัดมือมัดเท้า อุดปาก แล้วหิ้วขึ้นบ่า พาวิ่งเข้าป่าด้วยความเร็วชนิดที่หล่อนต้องตกใจ คนที่ไหนจะวิ่งได้เร็วขนาดนี้!

เมื่อมาถึงกลางป่าลึก ดารินจัดการเผากระเป๋าเสื้อผ้าของอารีแล้วฝังกลบอีกที ก่อนจะหันมาจัดการเด็กสาว

อารีที่ถูกอุดปากมัดมือเท้าไว้ จะตะโกนขอความช่วยเหลือก็ไม่ได้ หนีก็ไม่ได้ ได้แต่นั่งน้ำตาไหลพราก

คุณนายในชุดดำเดินย่างสามขุมเข้าไปหาเด็กสาวอย่างใจเย็น แววตานิ่งเรียบ ใบหน้ามีรอยยิ้มเย็น ดูแล้วชวนขนลุกนัก

หล่อนค่อย ๆ คุกเข่าลงตรงหน้าเด็กสาว แล้วพูดว่า

“อยากอยู่กับผัวฉันนักใช่ไหม พรุ่งนี้หล่อนจะได้อยู่กับเขาไปชั่วนิรันดร์เลยล่ะ”

จากนั้นก็แสยะยิ้ม ยกแขนขวาขึ้นมาให้เด็กสาวเห็นชัด ๆ ในระดับเดียวกับสายตา ด้วยแสงจากกองไฟที่ดารินก่อไว้ ทำให้อารีเห็นแขนข้างนั้นของคุณนายค่อย ๆ เปลี่ยนสภาพเป็นแท่งแหลมโค้งคมกริบคล้ายดาบ หล่อนได้แต่เบิกตากว้าง พยายามกรีดร้องสุดชีวิต แต่ก็ออกมาเป็นแค่เสียงอู้อี้ในลำคอเท่านั้น

 

คืนนั้นในป่ายังคงเงียบสงัดราวกับไม่มีใครอยู่ที่นั่น

 

**********

 

เช้าวันถัดมาบนโต๊ะอาหารบ้านเสี่ยดำรง มีแกงพะโล้ส่งกลิ่นหอมฉุยจนท้องของเขาร้องโครกคราก เมื่อได้ชิมรสชาติของเนื้อที่อยู่ในหม้อ เขาถึงกับอุทานออกมาอย่างประหลาดใจ

“นี่เนื้ออะไรทำไมถึงอร่อยอย่างนี้ ทั้งนุ่ม ทั้งหอม”

“เนื้อกวางค่ะ วันก่อนมีพรานเอาเนื้อกวางมาขาย ดาเห็นว่าน่าจะเอามาทำได้หลายอย่างเลยซื้อมา”

“ดี ๆ ๆ ๆ มื้อเย็นเอาอีกนะ”

“มื้อเย็นดาจะทำเป็นผัดเผ็ดให้นะคะ รับรองว่าอร่อยไม่แพ้พะโล้แน่นอน ส่วนกลางวัน ดาจะเอาพะโล้ใส่ปิ่นโตไปให้ค่ะ”

ดำรงพยักหน้ารับอย่างพึงพอใจ ฝีมือทำอาหารของเมียเขาไม่เป็นรองใคร ไม่ว่าจะเป็นเนื้ออะไรก็อร่อยที่สุด

 

และแล้วดำรง สามีเศรษฐีภูธรของดารินก็ได้กิน ‘เนื้อกวาง’ แสนอร่อย ที่ปรุงออกมาหลากหลายรายการ ทั้งต้ม ผัด แกง ทอด วนไปจนครบ 1 สัปดาห์

 

ในช่วงสัปดาห์นั้น มีข่าวเล่าลือกันไปทั่วตำบลเล็ก ๆ ว่าอารี ลูกสาวของนายสมกับนางอุ่นหอบเสื้อผ้าหนีตามผู้ชายไป ทิ้งไว้เพียงจดหมายฉบับเดียว

 

**********

 

กลางดึกคืนหนึ่งในบ้านหลังใหญ่ หลังจาก 2 สามีภรรยาเสร็จสมจากกิจกรรมบนเตียงแล้ว ดารินก็นอนหนุนแขนของสามี พลางใช้มือลูบไล้แผงอกหนั่นแน่นเปล่าเปลือยไปมา

“กินเนื้อกวางทุกวันมาเป็นอาทิตย์แล้วรู้สึกยังไงบ้างคะ”

“ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงถามเรื่องนี้ล่ะ”

“เผอิญนึกขึ้นมาได้ค่ะ”

“ก็อร่อยนะ อร่อยมาก ถ้าได้กินบ่อย ๆ ก็คงดี”

“เสียดายที่ไม่ได้มีกวางหลงมาบ่อย ๆ”

ดำรงนอนฟังตาปรือ คิดว่าดารินคงหมายถึงกวางที่หลงเข้าสู่กับดักของนายพราน จึงตอบโดยไม่ได้คิดอะไร

“นั่นสิ”

“แต่อีกสักพักน่าจะมีเนื้อกวางตัวผู้เพิ่ม”

“กวางตัวผู้? รู้ได้ยังไงว่าเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย?”

“รู้สิคะ ตัวที่แล้วที่เรากินกันเป็นตัวเมีย กำลังเข้าสู่วัยสาวเลยล่ะ”

“อืม… มิน่าล่ะ เนื้อนุ่มเชียว”

 

**********

 

ไม่กี่วันถัดมาดำรงต้องเดินทางไปติดต่องานที่จังหวัดใกล้ ๆ ดารินไม่ได้ตามไปด้วย

ตกกลางคืนในบ้านพักหลังเล็ก ๆ ใกล้เขตป่า ซึ่งเป็นบ้านพักที่ จำรัส เพื่อนของดำรงยกให้เขาใช้พำนักชั่วคราวในช่วงที่ยังทำธุระอยู่ที่นี่ ในห้องนอนมีเพียงตะเกียงจุดให้ความสว่างเพียงเล็กน้อย แต่ก็สามารถเห็นร่างเปลือยเปล่าของชายหญิงที่นอนกอดก่ายกันอยู่บนเตียงราง ๆ โดยมีเพียงผ้าห่มผืนบางคลุมไว้

ร่างระหงในชุดเสื้อกางเกงสีดำทะมัดทะแมงค่อย ๆ ย่างก้าวเข้ามาจนถึงข้างเตียงอย่างเงียบเชียบ ระพึงรำพันเบา ๆ

“มีทั้งกวางตัวผู้และตัวเมียครบเลย”

ร่างที่ยืนอยู่ข้างเตียงนั้นค่อย ๆ ยกแขนขวาขึ้นมาช้า ๆ ก่อนที่มันจะค่อย ๆ เปลี่ยนสภาพเป็นแท่งแหลมโค้งคล้ายดาบอันคมกริบ

 

2 วันถัดมา ข่าวการเสียชีวิตของดำรงในบ้านหลังเล็กใกล้ป่าจังหวัดข้าง ๆ ก็มาถึง และค่อนข้างเป็นข่าวใหญ่ เพราะสภาพศพคือถูกชำแหละ เนื้อหายไปหลายส่วน แถมยังมีศพผู้หญิงเปลือยที่เป็นเมียของนายจำรัส เจ้าของสวนผลไม้ที่เป็นเพื่อนกับดำรงอยู่ข้าง ๆ ด้วย ซึ่งสภาพศพก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน

มีเสียงเล่าลือกันหลายทาง บ้างก็ว่าโดนโจรปล้น เพราะข้าวของเงินทองก็หายไป บ้างก็ว่าเป็นเรื่องชู้สาว เพราะสภาพศพเหมือนมีความแค้นต่อกัน แต่จำรัสผู้เป็นสามีของหญิงสาวที่กลายเป็นศพก็ไม่ได้อยู่ที่จังหวัดนั้นในคืนนั้น จึงรอดจากการถูกตั้งข้อสงสัย ส่วนดารินยิ่งแล้วใหญ่ เพราะอยู่ที่บ้านตลอดเวลา ก่อนเข้านอนคนรับใช้ก็เห็นอยู่

 

ตลอดทั้งสัปดาห์ แม้บรรยากาศในบ้านหลังใหญ่จะเต็มไปด้วยความโศกเศร้า แต่ก็ยังดีที่มีอาหารซึ่งปรุงขึ้นจากเนื้อกวางให้ทั้งนายและบ่าวในบ้านได้อิ่มอร่อยทุกมื้อ

ดารินกลายเป็นแม่ม่ายยังสาว แต่งชุดดำไว้ทุกข์ให้สามีอยู่หลายเดือน ก่อนจะย้ายออกจากอำเภอเล็ก ๆ ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่อื่น หลังจากนั้นไม่มีใครได้ข่าวหล่อนอีกเลย

 

**********

 

ปีศักราชสากลที่ 5462 บุหงา หญิงสาววัย 22 ปี เดินทางมาถึงอำเภอหนึ่งในจังหวัดทางภาคเหนือตอนล่าง ไม่มีใครรู้ว่าหล่อนมาจากไหน รู้แค่ว่าหล่อนเป็นหญิงสาวที่หน้าตาสะสวย รูปร่างเย้ายวน ผิวพรรณขาวเนียนผุดผ่อง แต่งกายดูดีมีฐานะ

หล่อนเปิดร้านข้าวแกงในตัวอำเภอ มีลูกจ้างคอยช่วยดูแลหลายคน มีลูกค้าอุดหนุนมากมายทั้งชายหญิง

ผู้ชายติดใจในความงาม ผู้หญิงติดใจในรสมือ หลังจากถูกผู้ชายค่อนอำเภอรุมจีบอยู่พักใหญ่ สุดท้ายหล่อนก็ตัดสินใจแต่งงานกับ เทวา พรหมนพรักษ์ เจ้าของสวนผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอ

 

**********

 

ข้อมูลของหน่วย RECS เกี่ยวกับ ดาริน/บุหลัน

ชื่อ : ดาริน / บุหลัน

เผ่าพันธุ์ : ซีบิเรซ : แมงมุมดาบม่วง

ความสามารถพิเศษ : กลายร่างเป็นแมงมุมดาบม่วงได้ทั้งตัว หรือแค่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย

อาหารที่ชอบเป็นพิเศษ : เนื้อกวาง

 

*** ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหน่วย RECS และ ซีบิเรซ : https://alysanannette.com/moonlara-universe/

 

**********

 

*** นิยายเรื่อง มนตร์สรัญดา มี E-book นะคะ ใครสนใจไปตำกันได้ ***

ดาวน์โหลดนิยายเรื่อง มนตร์สรัญดา

Link E-book : https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNzgyMDAzIjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NjoiMTgzMzE1Ijt9

 

คำโปรยนิยาย ‘มนตร์สรัญดา’ :

แฟนที่อยู่ด้วยกันมา 3 ปีหนีไปหมั้นกับหญิงอื่นโดยไม่บอกกล่าว ทิ้งให้เธออกหัก เมาปลิ้นจนไปขึ้นเตียงกับใครก็ไม่รู้ (แต่เขาก็แซ่บอยู่นะ) พอตัดสินใจได้ว่าจะเท (อดีต) ผัวชั่วแน่นอนแล้ว มันก็ทำท่าจะตามมาอีก แล้วสรัญดาจะทำยังไงต่อไปดี

 

error: Content is protected !!